Friday, April 25, 2008

บีบรถก๊าซเติมเอ็นจีวี ลั่นเดือน ก.ค.นี้ แอลพีจีขึ้นพรวดเดียว 8 บาท จะทำให้ก๊าซหุงต้มขยับเป็น 18-19 บาทต่อกก. ขณะที่ราคา NGV จะอยู่ที่ 8.50 บาท ต่อกก

เตือนผู้ใช้ก๊าซหุงต้มในรถยนต์ หลังเดือน ก.ค. รัฐเตรียมปรับโครงสร้างราคาใหม่ขายปลีกจะสูงขึ้นแน่นอน ทำใจราคาอิงนำเข้าเจอเต็มๆ อย่างน้อย 7-8 บาท ต่อ กก. แต่ต้องรอเคาะอีกรอบ ลดภาระนำเข้าจากต่างประเทศสร้างส่วนต่างราคาให้สูงกว่า NGV เท่าตัว

      

       นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความชัดเจนว่าจะใช้ระบบราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) 2 ราคาแน่นอน โดยจะกำหนดเป็นราคาภาคขนส่งและภาคครัวเรือน ซึ่งส่วนของภาคขนส่งรัฐจะกำหนดราคาจำเป็นต้องปรับขึ้นทันทีหลัง ก.ค. โดยจะใช้สูตรอิงส่วนต่างราคานำเข้าจากต่างประเทศกับราคาคงที่ในประเทศ ซึ่งหากประเมินเบื้องต้นในเดือนเม.ย. ราคานำเข้าก๊าซหุงต้มอยู่ที่ 700 กว่าเหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ราคาในประเทศถูกกำหนดเป็นอัตราคงที่ 320 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้มีส่วนต่างอยู่ที่ 400 เหรียญสหรัญเทียบเป็นราคาขายปลีกทำให้ต้องปรับราคาภาคขนส่งเฉลี่ย 7-8/กก.

      

       "คงจะต้องติดตามราคาตลาดโลกและการนำเข้า ณ ขณะนั้นเป็นหลักว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งปกติแล้วราคาช่วงกลางปีจะลดต่ำลง ซึ่งการที่รัฐจำเป็นต้องขึ้นราคาให้สะท้อนกลไกตลาดโลกส่วนรถยนต์เพราะเวลา นี้การใช้ก๊าซหุงต้มสูงมากจากเดือนละ 3 แสนตัน เพิ่มเป็น 3.4 แสนตันทำให้ต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศเพื่อให้มีปริมาณเพียงพอและไม่เกิด ปัญหาขาดแคลน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ไทยต้องนำเข้าจากเดิมที่เป็นผู้ส่งออก" นายเมตตากล่าว

      

       ทั้งนี้ ปัจจุบันปตท.เป็นผู้นำเข้าล็อตแรกในเดือน เม.ย. จำนวน 2 หมื่นตัน พร้อมกับรับภาระส่วนต่างราคานำเข้าที่สูงกว่าราคาที่จะมาจำหน่ายจริงใน ประเทศโดยรัฐมีเงื่อนไขว่าจะจ่ายเงินส่วนต่างคืนภายหลังเมื่อมีการปรับราคา ขายปลีกสำหรับภาคขนส่งแล้วโดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลและสะสมเงิน คืนปตท.แต่จะครบเมื่อใดคงจะตอบไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นยังจะสร้างส่วนต่างราคาก๊าซหุงต้มให้ต่างจาก NGV เพื่อดึงดูดการใช้ NGV แทน ซึ่งหากต้องปรับขั้นต้น 7-8 บาทต่อกก.ก็จะทำให้ก๊าซหุงต้มขยับเป็น 18-19 บาทต่อกก. ขณะที่ราคา NGV จะอยู่ที่ 8.50 บาท ต่อกก. แต่การปรับคงอาจจะไม่ได้ ทำทีเดียวแต่จะค่อยๆ สะท้อนราคานำเข้า เพื่อไม่ให้กระทบมากเกินไป

      

       สำหรับการปรับขึ้นราคาภาคขนส่งจะเป็นช่วงที่ปตท.รับปากไว้ว่าการ บริการระบบเอ็นจีวีทั้งหมดจะมีความพร้อมรองรับความต้องการทั้งจำนวนปั๊มที่ เพิ่มขึ้น การจัดส่งก๊าซฯ จะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค.นี้ แน่นอน ดังนั้นน่าจะเป็นเงื่อนไขให้คนใช้รถยนต์หันมาเติม NGV มากขึ้นเพราะปัจจุบันผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่ได้ปฏิเสธ NGV โดยเฉพาะรถแท็กซี่นั้นระบุชัดเจนว่าเหลือเงินมากกว่าก๊าซหุงต้มแต่มีปัญหา ตรงที่ปั๊มน้อยต้องรอคิวยาวจึงทำให้ยังมองก๊าซหุงต้มมากกว่า ส่วนก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือนนั้น รมว.พลังงานให้ความสำคัญมากเพราะไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับผลกระทบมากเกิน ไป ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์กันอีกครั้งในเดือน ก.ค.นี้ ว่าควรมีการบริหารจัดการในเรื่องนี้อย่างไร

 

สแกนเนียบูมรถหัวลาก​ ​เปิด​ใหม่​ 3 ​รุ่นรวด​ พรัอมรับ NGV

สแกนเนียบูมรถหัวลาก​ ​เปิด​ใหม่​ 3 ​รุ่นรวด​
โดย​ ​ผู้​จัดการออนไลน์ 10 ​เมษายน​ 2551 11:11 ​น.
       ข่าว​ใน​ประ​เทศ – ​สแกนเนีย​ ​เปิดศึกตลาดรถหัวลาก​ ​เผยรถ​ใหม่​ที​เดียว​ 3 ​ซีรี่ส์รวด​ ​ทั้ง​ P ,G ​และ​ R ​ตั้งเป้าขาย​ 150 ​คันต่อปี​ ​ชี้ธุรกิจข้ามแดนส่งผล​ให้​ตลาดเติบโต​ได้​ ​ชูบริการหลังการขายโดดเด่น​ ​ลั่นพร้อมทำ​ตลาดเครื่องยนต์พลังงานทดแทน​ CNG ​แต่​ต้อง​รอ​ความ​ชัดเจนของภาครัฐ

[Image]
สแกนเนียรุ่น​ P420
       นายวิชัย​ ​จิราธิยุต​ ​กรรมการ​ผู้​จัดการ​ ​บริษัท​ ​สแกนเนีย​ ​สยาม​ ​จำ​กัด​ ​ผู้​ผลิต​และ​จำ​หน่ายรถบรรทุกหัวลาก​และ​รถบัสขนาด​ใหญ่​ภาย​ใต้​ ​แบรนด์​ ​สแกนเนีย ​เปิดเผยว่า​ ​ใน​ปีนี้บริษัทฯ​ ​เปิดตัวรถบรรทุกชนิดหัวลากรุ่น​ใหม่​พร้อม​กัน​ถึง​ 3 ​รุ่น​ ​คือ​ ​รุ่น​ P, G, ​และ​ R ​ซีรี่ส์​ ​หลัง​จาก​ที่บริษัทฯ​ ​เปิดตัวรถรุ่น​ ​ซีรี่ส์​ 4 ​และ​ทำ​ตลาดอย่างต่อ​เนื่อง​มาตลอดระยะ​เวลา​ 10 ​ปีที่ผ่านมา
       
       "​การที่​เรา​เปิดตัวรถ​ใหม่​ถึง​ 3 ​รุ่นพร้อม​กัน​นั้น​เป็น​นโยบายของบริษัทฯ​ ​แม่ที่สวี​เดน​ ​โดย​จุดเด่นของรถ​ทั้ง​ 3 ​ซีรี่ส์​ ​อยู่​ที่อัตราการบริ​โภคน้ำ​มันประหยัดกว่ารถญี่ปุ่น​ถึง​ 25% ​และ​เรา​จะ​ใช้​กลยุทธ์ด้านเครือข่ายการบริการ​ใน​การทำ​ตลาด​ซึ่ง​คลอบคลุม​ถึง​ 3 ​ประ​เทศ​ได้​แก่​ ​ไทย​ , ​มา​เลเซีย​ ​และ​สิงคโปร์​"
       
       ​ทั้ง​นี้​เฉพาะ​ใน​ส่วน​ของศูนย์บริการ​ใน​ประ​เทศไทย​นั้น​ ​บริษัทฯ​ ​มีมาก​ถึง​ 6 ​แห่ง​ได้​แก่​ ​กรุงเทพฯ​ , ​หาด​ใหญ่​ , ​สุราษฎ์ธานี​, ​สระบุรี​, ​ระยอง​ ​และ​กำ​แพงเพชร​ ​และ​ยัง​มีบริการ​ ​สแกนเนีย​ ​แอสซิสแตนท์​ ​หน่วยบริการ​ช่วย​เหลือฉุกเฉินสำ​หรับรถสแกนเนียทุกคัน​ทั่ว​ประ​เทศ​ ​ฉะ​นั้น​บริษัทฯ​ ​จึง​มี​ความ​โดดเด่น​ใน​ด้านของการ​ให้​บริการหลังการขาย
       
       ​นายวิชัยกล่าวว่า​ ​ปี​ 2551 ​บริษัทฯ​ ​ตั้งเป้าจำ​หน่ายหลังการเปิดตัวรถรุ่น​ใหม่​นี้​ไว้​ประมาณ​ 130-150 ​คันต่อปี​ ​เพิ่มขึ้น​จาก​ปี​ 2550 ​ประมาณ​ 10% ​เนื่อง​จาก​ธุรกิจข้ามแดนมีจำ​นวนมากขึ้น​ ​และ​เส้นทางการขนส่งทางบกข้ามประ​เทศระหว่างไทย​ ​ลาว​ ​และ​จีน​ ​เริ่มเปิด​ใช้​อย่าง​เป็น​ทางการ
       
       ส่วน​การ​ใช้​เชื้อเพลิงชนิด​ CNG ​นั้น​ทางบริษัทฯ​ ​มี​เครื่องยนต์ที่รองรับพร้อม​อยู่​แล้ว​ ​แต่​ต้อง​รอ​ความ​ชัดเจน​จาก​ภาครัฐ​ ​เรื่องจำ​นวนปั๊มสำ​หรับรถ​ใหญ่​และ​มาตรฐานการติดตั้งที่​เป็น​สากล​ ​สำ​หรับตลาดรว

 

Thursday, April 24, 2008

Manager Online - สยอง! เก๋งติด LPG คว่ำไฟลุกท่วมย่างสดนักเรียน ม.5 คารถ

คุณ pairoj อ่านข่าวหรือบทความนี้ทางเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ แล้วแนะนำมายังคุณ
สยอง! เก๋งติด LPG คว่ำไฟลุกท่วมย่างสดนักเรียน ม.5 คารถ
หนุ่ม 18 ขับรถออกจากบ้านจะเอาซีดีไปคืนร้าน ถูกจยย. ตัดหน้า หักหลบเสยต้นไม้ ไฟลุกท่วมไหม้เป็นตอตะโกคาซากรถ ตำรวจเผยอาจเป็นเพราะติดแก๊ส จนเกิดรั่วติดประกายไฟถูกคลอกสยอง เมื่อเวลา 20.35 น. วันที่ 19 เม.ย. พ.ต.ท.นิยม แตงโสภา สารวัตรเวร สภ.บางปลาม้าสุพรรณ...
คุณอ่านเนื้อหาสมบูรณ์ของข่าวหรือบทความชิ้นนี้รวมทั้งร่วมแสดงความเห็นได้ด้วยการคลิกที่หัวข้อข่าวหรือบทความด้านบน หรือพิมพ์ URL นี้ทีเบราวเซอร์ของคุณ
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.aspx?NewsID=9510000045981

Manager Online - คลังโยน ครม.สรุปหั่นภาษีน้ำมัน จัดงบ 9 พันล.ปล่อยกู้ติดเอ็นจีวี

คุณ pairoj อ่านข่าวหรือบทความนี้ทางเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ แล้วแนะนำมายังคุณ
คลังโยน ครม.สรุปหั่นภาษีน้ำมัน จัดงบ 9 พันล.ปล่อยกู้ติดเอ็นจีวี
ปลัดคลัง เผยผลการประชุมเพื่อลดภาษีสรรพสามิตรน้ำมัน ยังไม่ได้ข้อสรุป เตรียมหามาตรการใหม่ โดยจัดงบ 9 พันล. ให้รถโดยสารสาธารณะ ทั้งรถขนาดใหญ่-รถแท็กซี่ ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อติดตั้งก๊าซเอ็นจีวี พร้อมชง ครม.อังคารหน้า...
คุณอ่านเนื้อหาสมบูรณ์ของข่าวหรือบทความชิ้นนี้รวมทั้งร่วมแสดงความเห็นได้ด้วยการคลิกที่หัวข้อข่าวหรือบทความด้านบน หรือพิมพ์ URL นี้ทีเบราวเซอร์ของคุณ
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.aspx?NewsID=9510000048065