Wednesday, November 19, 2008

"ฮีโน่"เทก้อนโตตั้งไทยเป็นฐานผลิตรถNGV

"ฮีโน่"เทก้อนโตตั้งไทยเป็นฐานผลิตรถNGV

" ฮีโน่" ดันไทยเป็นฐานผลิตรถบรรทุกขนาดกลาง เทงบฯอีก 200 ล้าน ผลิตรถบรรทุกเอ็นจีวีก่อนส่งลุยตลาดปีหน้า พร้อมเดินหน้าทำตลาดอินเดียก่อนขยายไปออสเตรเลียและตะวันออกกลางในอีก 2 ปี ประกาศไม่ย้ายฐานการผลิตเหตุไม่คุ้มทุน แย้มพร้อมลงทุนเพิ่มอีกเพื่อรับตลาดส่งออก



นายโยชิโอะ ชิไร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ฮีโน่มอเตอร์ส จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ผู้ผลิตและจำหน่ายรถบรรทุก-รถบัส ยี่ห้อ"ฮีโน"
กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนสำหรับตลาดในประเทศไทยมูลค่าประมาณ 100-200 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการพัฒนารถบรรทุกที่ใช้เชื้อเพลิงเอ็นจีวี และการปรับปรุงไลน์ผลิตเพื่อรองรับการส่งออกรถบรรทุกไปจำหน่ายยังตลาด อินเดีย

บริษัทจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถบรรทุกขนาดกลางของ ภูมิภาค เพื่อขยายฐานส่งออกไปยังอินเดียในช่วงเดือนเมษายนปีหน้าประมาณ 1,600 คัน หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,100 ล้านบาท และในปีถัดไปจำนวน 3,200 คัน คิดเป็นมูลค่า 6,100 ล้านบาท ก่อนที่จะมีการขยายไปยังตลาดออสเตรเลียในปี 2553 ตะวันออก กลางและเอเชียในปี 2555

ส่วนผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูง ขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับความผันผวนและวิกฤตทางการเงินในสหรัฐอเมริกานั้น เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อยอดการจำหน่ายของบริษัทแต่อย่างใด

เนื่อง จากบริษัทได้เตรียมแผนการและความพร้อมเพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง การยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า รวมถึงการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพจะส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตาม เป้าหมายที่วางไว้

เห็นได้จากยอดการจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทในปี 2550 บริษัทมียอดจำหน่าย 115,000 คัน แบ่งเป็นการจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น 50,000 คัน และตลาดต่างประเทศอีก 65,000 คัน ซึ่งถือเป็นปีแรกที่ยอดการจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทในตลาดต่างประเทศมีปริมาณ สูงกว่าการจำหน่ายในประเทศ พร้อมกันนี้บริษัทตั้งเป้าว่าภายใน ปี 2558 จะต้องมียอดจำหน่าย 200,000 คัน โดยตลาดหลักจะเป็นตลาดต่างประเทศ

" ตลอดระยะเวลา 46 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญของเรา เห็นได้จากในรอบปีที่ผ่านมายอดจำหน่ายของฮีโน่จะมีการปรับเปลี่ยนเป็นตลาด ส่งออกมีค่อนข้างสูงกว่าตลาดญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เราจะต้องเดินและเน้นตลาดส่งนอก ประเทศเพิ่มขึ้น"

ขณะที่นายโยชิโนริ โนกูจิ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงยอดจำหน่ายของบริษัทตลอดระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมาว่ามีสูงถึง 5,209 คัน คิดเป็น 40% จากตลาดรวมที่มียอดจำหน่าย 12,916 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่าบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น 3%

สาเหตุที่ทำให้ยอด จำหน่ายรถบรรทุกลดลงถึง 18% นั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาวะราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องใน ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ประกอบกับภาวะความไม่มั่นคงทางการเมือง และความต้องการใช้รถบรรทุกเอ็นจีวีมีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ยอดจำหน่ายชะลอตัว แต่ทั้งนี้เชื่อว่าตลาดจะเริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้งในปีหน้าอย่างแน่นอน

" ในปีหน้าเราเตรียมส่งรถบรรทุกเอ็นจีวีทำตลาด โดยช่วงแรกในเดือนเมษายนจะเป็นรุ่นเอฟจี และเอฟเอ็ม หัวลากขนาด 260 แรงม้าก่อน และจะมีการทยอยเพิ่มรุ่นในช่วงกลางปี ซึ่งเราเชื่อว่ารถเอ็นจีวีของเราจะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน"

ด้าน นายอำนวย พงษ์วิจารณ์ กรรมการบริหารอาวุโส กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงกรณีที่อาจจะมีบริษัทผู้ผลิตรถบรรทุกบางรายจะตัดสินใจย้ายฐานการผลิตไป ยังประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากต้องการให้ภาครัฐได้กลับมาทบทวนเรื่องของการให้สิทธิพิเศษทางด้าน ภาษีการนำเข้าชิ้นส่วนหรือซีเคดีเป็น 0% จากปัจจุบันอยู่ที่ 10% เหมือนประเทศเพื่อนบ้านนั้น บริษัทยืนยันว่ายังไม่มีแนวคิดที่จะย้ายฐานการผลิตแต่อย่างใด

เนื่อง จากบริษัทได้ตัดสินใจลงทุนและใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถบรรทุก ขนาดกลางที่สำคัญ บวกกับช่วงที่ผ่านมาได้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของบริษัทเอง และบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เป็นพันธมิตร หากมีการตัดสินใจย้ายฐานการผลิตก็อาจจะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า แต่ทั้งนี้เชื่อว่าอนาคตหากประเทศไทยมีความพร้อมในการผลิตรถรุ่นใดก็มีความ เป็นไปได้ว่าบริษัทแม่อาจจะตัดสินใจนำรถรุ่น ดังกล่าวไปใช้เป็นฐานการผลิตในประเทศอื่นแทนมากกว่า

นอกจากนี้ บริษัทได้เตรียมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง หลังจากลงทุนเพื่อรับการผลิตรถบรรทุกเอ็นจีวี และรถบรรทุกเพื่อป้อนให้กับตลาดอินเดียไปแล้ว 200 ล้านบาท ส่วนตลาดออสเตรเลีย ตะวันออก กลาง และตลาดเอเชีย น่าจะต้องมีการลงทุนเพิ่มอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของการศึกษารายละเอียด

 

ทาทา-แดวูเผยโฉม 'โนวัส' รถบรรทุกต้นแบบแอลพีจี

ทาทา-แดวูเผยโฉม 'โนวัส' รถบรรทุกต้นแบบแอลพีจี

บริษัท ทาทา แดวู ในเครือทาทา มอเตอร์ส ผู้ผลิตรถบรรทุกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเกาหลีใต้ ประสบความสำเร็จในการพัฒนารถบรรทุกต้นแบบขนาดกลางที่ขับเคลื่อนด้วยก๊าซหุง ต้ม (แอลพีจี) เป็นรุ่นแรกของประเทศ โดยใช้ชื่อว่า 'โนวัส' (Novus) ซึ่งรถบรรทุกขนาดกลางคันนี้เป็นรถขนาด 4.5 ตัน ใช้เครื่องยนต์แอลพีจีขนาด 5.9 ลิตร 240 แรงม้า เทคโนโลยีหัวฉีด Liquid Phase Injection (LPLi)

สำหรับการพัฒนารถรุ่นดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงานของเกาหลีใต้ รวมถึง บริษัท โคเรีย เอเนอร์จี แมเนจเมนท์ฯ และองค์กรอื่นๆ อีก 12 องค์กร

รถบรรทุกรุ่นนี้ปล่อยมลพิษลดลงตามมาตรฐานยูโร-4 ลบข้อจำกัดของรถที่ใช้เครื่องยนต์แอลพีจีและดีเซลที่มักมีปัญหากำลังเครื่อง ยนต์ต่ำและปัญหาในการสตาร์ตเมื่ออากาศหนาว นอกจากนี้ รถรุ่นโนวัสยังปล่อยไอเสียน้อยกว่า เสียงเครื่องยนต์เบากว่า และเครื่องยนต์มีอายุยืนยาวกว่าเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไปอีกด้วย

รถต้นแบบรุ่นดังกล่าวถูกนำออกแสดงในงานเวิลด์ แอลพีจี ฟอรัม ครั้งที่ 21 ที่กรุงโซล และงานกุนซาน อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต้ เอ็กซ์โป ทั้งนี้ งานเวิลด์ แอลพีจี ฟอรัม มุ่งส่งเสริมการใช้ก๊าซแอลพีจีเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนและช่วย บรรเทาปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนจากภาวะโลกร้อน

การพัฒนารถบรรทุกขนาดกลางที่ใช้ก๊าซแอลพีจี เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของทาทา แดวู ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานสะอาด ที่ผ่านมา บริษัท ยังได้พัฒนารถบรรทุกที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ซีเอ็นจี และแอลเอ็นจี ซึ่งมีอัตราการปล่อยไอเสียต่ำอีกด้วย

 

Tuesday, November 18, 2008

เพอร์โซนาCNGไม่เกิน6แสน 1600 cc E20

เพอร์โซนาCNGไม่เกิน6แสน + โปรตอนเปิดตัวรถติดก๊าซ- ชี้ทำตลาดปีแรกฟันยอดขาย 4,000 คัน

โปรตอน ลุยตลาดเก๋งซีเอ็นจี เปิดตัวเพอร์โซนา ใช้เชื้อเพลิง 2 ระบบ เคาะราคาไม่เกิน 6 แสนบาท พร้อมรับประกันจากโรงงานไทยนาน3ปี /แสนกม. ชูจุดแข็งทั้งประหยัดและคุ้มราคา เร่งบริษัทแม่ส่งมอบรถให้ลูกค้า สรุปเปิดตัวปีแรกสุดหรูตัดยอดขาย 4,000 คัน

 

นายธวัชชัย จึงสงวนพรสุข กรรมการบริหาร บริษัท พระนครโอโตเซลส์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์โปรตอนในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ โปรตอน เพอร์โซนา ซีเอ็นจี (Proton Persona CNG) อย่างเป็นทางการในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของลูกค้าชาวไทย สู้วิกฤติราคาน้ำมัน ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีล่าสุด ผลงานการออกแบบ ระบบควบคุมบังคับและระบบกันสะเทือนที่เหนือชั้นด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีโดยทีม วิศวกรจากโลตัส ค่ายรถสปอร์ต ประเทศอังกฤษ ทำให้มีศักยภาพสูงและคุ้มค่าด้วยระบบขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบ ขนาดเครื่องยนต์ 1600 ซีซี ใช้เชื้อเพลิง 2 ระบบ ใช้ได้ทั้งน้ำมันเบนซินและก๊าซซีเอ็นจี อีกทั้งระบบยังสามารถรองรับแก๊สโซฮอล์อี 20 ซึ่งถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่โปรตอนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่พร้อมด้วยระบบ พลังงานเชื้อเพลิงซีเอ็นจี โดยตั้งราคาจำหน่ายเริ่มต้นไม่เกิน 600,000 บาท

 

นอกจากนี้ โปรตอน เพอร์โซนา ซีเอ็นจี ยังสามารถสนองตอบการเดินทางที่ไกลขึ้น ด้วยการเพิ่มขนาดความจุถังก๊าซให้สูงสุดถึง 90 ลิตรน้ำ และยังมั่นใจในคุณภาพที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการติดตั้ง ซีเอ็นจี จากโรงงานประกอบรถยนต์บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี พร้อมความอุ่นใจมากขึ้นด้วยการรับประกันคุณภาพรถยนต์ยาวนานถึง 3 ปีเต็ม หรือ 100,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งมาถึงก่อน)

 

นายธวัชชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์น้ำมันแพงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้ามองหารถยนต์ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น การนำโปรตอนเข้ามาในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาถือเป็นการตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน โปรตอน มีรถยนต์จำหน่ายอยู่ 3 รุ่นคือ โปรตอน แซฟวี่, โปรตอน นีโอ และโปรตอน เจน-ทู

เมื่อเปรียบเทียบสมรรถนะต่าง ๆ ได้ทดลองขับ กับราคาจำหน่ายแล้วทำให้ผู้บริโภคตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้มี ยอดส่งมอบแล้วกว่า 2,000 คัน โดยทุกรุ่นยังมียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นจังหวะที่ผู้ใช้รถนิยมซื้อรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมัน ในราคาคุ้มค่า ยอดจองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยขณะนี้เรามีปริมาณการส่งมอบรถถึงเดือนละ ประมาณ 500 คัน ทำให้คาดว่า ในปี 2551 โปรตอนจะมียอดขายรวมประมาณ 4,000 คัน ปัจจุบัน บริษัท แต่งตั้งผู้จำหน่ายรถยนต์โปรตอนทั่วประเทศรวม 31 แห่ง และวางแผนให้มีผู้จำหน่ายรวม 40 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยแบ่งเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล 11 แห่ง และต่างจังหวัด 29 แห่ง

 

"โปรตอน เพอร์โซนา ซีเอ็นจี ใหม่ เหนือกว่าการขับขี่เพราะนี่คือที่สุดแห่งการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ กับรูปลักษณ์ของสปอร์ตซีดาน ออกแบบใหม่ทั้งตัวตั้งแต่กระจังหน้าจดไฟท้าย มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยพวงมาลัยที่ตอบสนองได้รวดเร็วเท่าที่ใจต้องการ โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์ พร้อมไฟตัดหมอกเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ ล้ออัลลอยด์ลายใหม่ดึงดูดทุกสายตา เพิ่มลูกเล่นเน้นฟังก์ชันเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด เบาะนั่งได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ Pre-tensioner ให้ความปลอดภัยสูง ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแปรผันตามความรุนแรง ระบบเบรก ABS และระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EDB (Electronic Brakeforce Distribution) ทำหน้าที่กระจายแรงเบรกระหว่างล้อคู่หน้าและหลังได้อย่างสมดุลและแม่นยำ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถได้อย่างปลอดภัยในทุกสภาวะบนท้องถนน พร้อมระบบ BEBD (Backup Electronic Brakeforce Distribution) เป็นระบบที่ทำหน้าที่สำรองการทำงานของ ABS และ EDB เพื่อให้เบรกด้านหลังทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ"

 

โปรตอน เพอร์โซนา ซีเอ็นจี มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1600 ซีซี ในรหัส Campro ขุมพลัง 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบท่อไอดีแปรผัน IAFM ให้กำลังสูงสุดถึง 110 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 148 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและเชื้อเพลิง ซีเอ็นจี เป็นแบบหัวฉีดมัลติพอยต์ มีทั้งแบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ

 

นอกจากนี้ โปรตอน เพอร์โซนา ซีเอ็นจี ยังคงพื้นที่ห้องสัมภาระด้านท้ายกว้างขวาง สวยงามและปลอดภัย ด้วยชุดครอบถัง ซีเอ็นจี ผลิตจากวัสดุกันลามไฟตามมาตรฐาน FMVSS (Federal Motor Vehicle Safety Standards) เพิ่มความมั่นใจให้ทุกเส้นทางการขับขี่ พร้อมราคาพิเศษสุด มีให้เลือกถึง 3 รุ่นคือ รุ่น 1.6L Medium Line เกียร์ธรรมดา , รุ่น 1.6L Medium Line เกียร์อัตโนมัติ และรุ่น 1.6 High Line เกียร์อัตโนมัติ

 

โปรตอน เพอร์โซนา ได้รับรางวัล "รถยอดเยี่ยมแห่งปีของมาเลเซีย" ในงานประกาศผลรางวัล Frost & Sullivan ASEAN Automotive Awards เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพมาตรฐาน และความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยมติเอกฉันท์จากผู้บริโภคกว่า 55,000 คนที่โหวตให้ โปรตอน เพอร์โซนา เป็นรถที่ชื่นชอบมากที่สุด