Friday, April 25, 2008

สแกนเนียบูมรถหัวลาก​ ​เปิด​ใหม่​ 3 ​รุ่นรวด​ พรัอมรับ NGV

สแกนเนียบูมรถหัวลาก​ ​เปิด​ใหม่​ 3 ​รุ่นรวด​
โดย​ ​ผู้​จัดการออนไลน์ 10 ​เมษายน​ 2551 11:11 ​น.
       ข่าว​ใน​ประ​เทศ – ​สแกนเนีย​ ​เปิดศึกตลาดรถหัวลาก​ ​เผยรถ​ใหม่​ที​เดียว​ 3 ​ซีรี่ส์รวด​ ​ทั้ง​ P ,G ​และ​ R ​ตั้งเป้าขาย​ 150 ​คันต่อปี​ ​ชี้ธุรกิจข้ามแดนส่งผล​ให้​ตลาดเติบโต​ได้​ ​ชูบริการหลังการขายโดดเด่น​ ​ลั่นพร้อมทำ​ตลาดเครื่องยนต์พลังงานทดแทน​ CNG ​แต่​ต้อง​รอ​ความ​ชัดเจนของภาครัฐ

[Image]
สแกนเนียรุ่น​ P420
       นายวิชัย​ ​จิราธิยุต​ ​กรรมการ​ผู้​จัดการ​ ​บริษัท​ ​สแกนเนีย​ ​สยาม​ ​จำ​กัด​ ​ผู้​ผลิต​และ​จำ​หน่ายรถบรรทุกหัวลาก​และ​รถบัสขนาด​ใหญ่​ภาย​ใต้​ ​แบรนด์​ ​สแกนเนีย ​เปิดเผยว่า​ ​ใน​ปีนี้บริษัทฯ​ ​เปิดตัวรถบรรทุกชนิดหัวลากรุ่น​ใหม่​พร้อม​กัน​ถึง​ 3 ​รุ่น​ ​คือ​ ​รุ่น​ P, G, ​และ​ R ​ซีรี่ส์​ ​หลัง​จาก​ที่บริษัทฯ​ ​เปิดตัวรถรุ่น​ ​ซีรี่ส์​ 4 ​และ​ทำ​ตลาดอย่างต่อ​เนื่อง​มาตลอดระยะ​เวลา​ 10 ​ปีที่ผ่านมา
       
       "​การที่​เรา​เปิดตัวรถ​ใหม่​ถึง​ 3 ​รุ่นพร้อม​กัน​นั้น​เป็น​นโยบายของบริษัทฯ​ ​แม่ที่สวี​เดน​ ​โดย​จุดเด่นของรถ​ทั้ง​ 3 ​ซีรี่ส์​ ​อยู่​ที่อัตราการบริ​โภคน้ำ​มันประหยัดกว่ารถญี่ปุ่น​ถึง​ 25% ​และ​เรา​จะ​ใช้​กลยุทธ์ด้านเครือข่ายการบริการ​ใน​การทำ​ตลาด​ซึ่ง​คลอบคลุม​ถึง​ 3 ​ประ​เทศ​ได้​แก่​ ​ไทย​ , ​มา​เลเซีย​ ​และ​สิงคโปร์​"
       
       ​ทั้ง​นี้​เฉพาะ​ใน​ส่วน​ของศูนย์บริการ​ใน​ประ​เทศไทย​นั้น​ ​บริษัทฯ​ ​มีมาก​ถึง​ 6 ​แห่ง​ได้​แก่​ ​กรุงเทพฯ​ , ​หาด​ใหญ่​ , ​สุราษฎ์ธานี​, ​สระบุรี​, ​ระยอง​ ​และ​กำ​แพงเพชร​ ​และ​ยัง​มีบริการ​ ​สแกนเนีย​ ​แอสซิสแตนท์​ ​หน่วยบริการ​ช่วย​เหลือฉุกเฉินสำ​หรับรถสแกนเนียทุกคัน​ทั่ว​ประ​เทศ​ ​ฉะ​นั้น​บริษัทฯ​ ​จึง​มี​ความ​โดดเด่น​ใน​ด้านของการ​ให้​บริการหลังการขาย
       
       ​นายวิชัยกล่าวว่า​ ​ปี​ 2551 ​บริษัทฯ​ ​ตั้งเป้าจำ​หน่ายหลังการเปิดตัวรถรุ่น​ใหม่​นี้​ไว้​ประมาณ​ 130-150 ​คันต่อปี​ ​เพิ่มขึ้น​จาก​ปี​ 2550 ​ประมาณ​ 10% ​เนื่อง​จาก​ธุรกิจข้ามแดนมีจำ​นวนมากขึ้น​ ​และ​เส้นทางการขนส่งทางบกข้ามประ​เทศระหว่างไทย​ ​ลาว​ ​และ​จีน​ ​เริ่มเปิด​ใช้​อย่าง​เป็น​ทางการ
       
       ส่วน​การ​ใช้​เชื้อเพลิงชนิด​ CNG ​นั้น​ทางบริษัทฯ​ ​มี​เครื่องยนต์ที่รองรับพร้อม​อยู่​แล้ว​ ​แต่​ต้อง​รอ​ความ​ชัดเจน​จาก​ภาครัฐ​ ​เรื่องจำ​นวนปั๊มสำ​หรับรถ​ใหญ่​และ​มาตรฐานการติดตั้งที่​เป็น​สากล​ ​สำ​หรับตลาดรว

 

No comments: